[ 1 ] จัดตัวแบบเซอร์ไพรส์เล็กๆ
ก่อนเริ่มการแข่งขัน สื่อหลากสำนักต่างคาดการณ์ตัวผู้เล่นของทีมชาติไทย กันหลายหลาก และแน่นอนว่าความคิดของแต่ละที่ย่อมแตกต่างกันออกไป กระทั่งรายชื่อ 11 คนแรกถูกเผยออกมาอย่างเป็นทางการก็สร้างความประหลาดใจเล็กๆ ให้แก่ทุกคน
ชื่อของ กฤษดา กาแมน และ สารัช อยู่เย็น สองนักเตะที่เป็นตัวหลักให้ทัพช้างศึกตลอด 2-3 ปี หลังสุด หลุดไปอยู่บนม้านั่งสำรอง โดยเป็น พรรษา เหมวิบูลย์ กับ พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี ที่ลงมาทำหน้าที่แทน
ในรายของ กฤษดา ที่ไม่ได้ออกสตาร์ตในตำแหน่งตัวจริง น่าจะมาจากเหตุผลทางด้านแท็กติกที่ มาซาทาดะ อิชิอิ คงต้องการใช้กองหลังรูปร่างสูงใหญ่มาปะทะกับคีร์กีซสถาน ที่อุดมไปด้วยนักเตะรูปร่างสูงใหญ่
ขณะที่ สารัช นั้นอาจจะเป็นเพราะสภาพร่างกายที่กรำศึกหนักมาทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ ดังนั้นจึงเลือกที่จะให้กัปตัน บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้พักบ้าง เพื่อที่จะชาร์จพลัง เก็บความสดเอาไว้ แล้วรอมาปะทุเต็มๆ ในเกมใหญ่
อย่างไรก็ตาม การไม่มีทั้ง กฤษดา และ สารัช นั้นถือว่าสร้างความประหลาดใจให้แฟนฟุตบอลชาวไทย ไม่น้อย เนื่องจากก่อนหน้านี้ทั้งคู่เป็นผู้เล่นที่ทัพช้างศึกจะขาดเสียไม่ได้เลยทีเดียว
ส่วนอีกหนึ่งตำแหน่งที่น่าสนใจคือมิดฟิลด์ตัวรุกที่จะทำเกมอยู่หลัง 3 ประสานในแดนบน ซึ่งเจ้าของพื้นที่ตัวจริงคือ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ส่วนเบอร์รองเป็น เอกนิฐษ์ ปัญญา ทว่าสองคนนี้ไม่ได้บินสู่กาตาร์ ดังนั้นเครื่องหมายคำถามตัวเบ้อเร่อว่า อิชิอิ จะเลือก 'ใคร' ลงสนาม
แคนดิเดตระหว่าง ปฐมพล เจริญรัตนาภิรมย์, วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ และ ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว ถูกตัดไป เพื่อหลีกทางให้ สุภโชค สารชาติ ขยับเข้ากลางมารับบทเพลย์เมเกอร์
[ 2 ] อิชิอิ โชว์กึ๋น
แม้ มาซาทาดะ อิชิอิ เพิ่งจะเข้ามาคุมทีมชาติไทย ได้ไม่นาน เพราะเมื่อนักรวมเกมชนะคีร์กีซสถาน 2-0 ก็เท่ากับว่าเขาเป็นเฮดโค้ชทัพช้างศึกเพียงนัดที่ 2 เท่านั้น
แต่ด้วยความที่คุ้นชินกับสยามประเทศ เพราะมาเริ่มต้นที่ สมุทรปราการ ซิตี้ เมื่อปี 2019 ต่อด้วย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในปี 2021 กระทั่งมาลงเอยกับแชมป์ อาเซียน คัพ 7 สมัย ในที่สุด
การที่อยู่เมืองไทย มาราวๆ 5 ปี ย่อมทำให้กุนซือชาวญี่ปุ่น ได้ซึมซับวัฒนธรรมต่างๆ รวมไปถึงนิสัยใจคอของคนที่นี่ เมื่อประสบการณ์แก่กล้าในการรับมือกับบรรดาผู้ใหญ่ของวงการลูกหนังมันจึงทำให้เขามีความยืดหยุ่นมากๆ ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้น อะไรๆ ก็ค่อยๆ ราบรื่นอภิรมย์
แน่นอนว่า อิชิอิ เป็นหนึ่งในเฮดโค้ชชาวต่างชาติที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในเมืองไทย และมันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่ๆ กับการพาสโมสรที่ตนเองคุมทัพพุ่งชนเป้าหมายที่วางไว้ หากแต่มันเกิดจากความสามารถของเขาล้วนๆ ที่พยายามกำกับทีมไปในทิศทางที่ต้องการ
อดีตเทรนเนอร์ คาชิมะ แอนท์เลอร์ส เป็นกุนซือที่ละเอียดยิบในแง่ของแท็กติก เขามักจะศึกษาคู่ต่อสู้ก่อนเสมอ แม้ว่าฝั่งตรงข้ามจะด้อยกว่า แต่ก็ไม่มีทางเลยที่บิ๊กบอสวัย 56 ปี จะติดประมาท
นั่นจึงเป็นที่มาของการดร็อป กฤษดา กาแมน ไว้ข้างสนาม เพื่อให้ พรรษา เหมวิบูลย์ ลงมายืนคู่กับ เอเชียส ดอเลาะ ในตำแหน่งคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ
ผลที่ออกมาก็ถือว่าดีชะงัด เพราะคีร์กีซสถาน แทบไม่สามารถทำอะไรเกมรับของไทย ได้เลย โดยเฉพาะลูกกลางอากาศที่คู่ปราการหลังของทัพช้างศึกเก็บเรียบตลอดทั้ง 90 นาที แถมยังปล่อยให้บอลหลุดถึงมือ ปฏิวัติ คำไหม เพียง 3 จาก 8 ครั้งของโอกาสที่มี
นี่คือการแก้เกมของ อิชิอิ ที่รู้ดีว่าทีมเหยี่ยวขาวแห่งเอเชียกลางมีจุดเด่นเช่นไร เขาจึงวางหมากเพื่อปิดจุดเด่นนั้นให้สนิท แล้วผลการแข่งขันที่ต้องการก็จะตามมาเอง
[ 3 ] ศุภชัย คืนฟอร์ม
การไร้ ธีรศิลป์ แดงดา ในแดนหน้าทำให้ 'ความหวัง' ของแฟนฟุตบอลชาวไทย ดูจะดับสูญลงไปด้วย เพราะตลอดระยะเวลานับสิบปี อดีตหัวหอก อัลเมเรีย พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาคือนักเตะที่ทัพช้างศึกจะขาดไม่ได้เลยทีเดียว
ไม่ใช่ว่าทีมชาติปรารถนาจะใช้งานดาวยิงวัย 35 ปี ไปตลอด แต่มันเหตุผลข้อใหญ่คือยังไม่มีนักเตะคนใดก้าวเท้ามาแทนที่หัวหอก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ได้เลยสักราย
กระทั่งผลงานของ ศุภชัย ใจเด็ด ในระดับสโมสรที่ค่อยๆ ดีขึ้นในทุกๆ ปี ทำให้ทุกคนต่างก็ 'คาดหวัง' ว่าหมอนี่นี่แหละที่จะมารับไม้ต่อจาก ธีรศิลป์ ในอนาคตอันใกล้นี้
รางวัล 'ดาวซัลโว' ไทยลีก 2022-23 การันตีอย่างดีว่าเพชฌฆาตชาวปัตตานีเก่งกาจเพียงใด
แต่พอมาถึงการเล่นให้ทีมชาติ กลายเป็นว่า ศุภชัย ไม่สามารถรีดฟอร์มได้เหมือนตอนที่อยู่กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เลยสักนิด หนำซ้ำยังถูกวิจารณ์ในแง่ลบอีกต่างหาก เพราะผลงานที่ค่อนข้างย่ำแย่เมื่อสวมใส่ชุดช้างศึกลงสนาม
จากความหวังกลายเป็นความผิดหวัง แถมยังค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความกดดันทีละน้อย มันจึงทำให้ภาระที่แบกอยู่บนสองบ่านั้นสุดแสนจะหนักอึ้ง
อย่างไรก็ตาม พอทีมชาติไทย เปลี่ยนมาใช้บริการของ มาซาทาดะ อิชิอิ ก็ดูเหมือนว่า ศุภชัย จะฟื้นฟอร์มเก่งได้อีกครั้ง ซึ่งก็ต้องยกเครดิตให้กับกุนซือชาวญี่ปุ่น เช่นกันที่รู้ว่าจะดึงศักยภาพของนกเตะวัย 25 ปี คนนี้ออกมาใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพได้อย่างไร
สองประตูที่สับไกใส่คีร์กีซสถาน อาจจะไม่ใช่การยิงที่ยากเย็นอะไรนัก แต่อย่างน้อยมันก็ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับ ศุภชัย ได้มากมาย ซึ่งต่อจากนี้แหละ เขาเองก็คงจะค่อยๆ เฉิดฉายทีละนิด จนสามารถรับช่วงต่อจาก ธีรศิลป์ ได้ในเร็ววัน
เผลอๆ เอเชียน คัพ 2023 หมอนี่อาจจะจารึกชื่อของตัวเองในฐานะ 'ดาวซัลโว' ประจำทัวร์นาเมนต์ก็เป็นได้ ใครเล่นจะมีทางรู้